ย้อนดู! เกิดอะไรขึ้นบ้าง โหวตนายกรัฐมนตรี ปี 62
จากกรณีการโหวตนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 13 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ โดยมีชื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นแคนดิเดตคนสำคัญ ที่ลุ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ของประเทศไทย แต่ก่อนที่จะได้นายกรัฐมนตรีคนใหม่ เราไปย้อนดูเหตุการณ์วันโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีในปี 2562 เพื่อย้อนดูบรรยากาศในสภาว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นในการโหวตนายกรัฐมนตรีบ้าง
โดยวันที่ 5 มิถุนายน 2562 ที่ประชุมรัฐสภาใช้เวลาในการประชุมโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ 09.15 น. แต่ต้องลากยาว ไปปิดประชุม ตอน 23.50 น. รวมใช้เวลาเกือบ 15 ชั่วโมง
ปี 62 เลือก"ชวน"เป็นประธานสภาใช้เวลาร่วม 10 ชั่วโมง
ย้อนดู งูเห่า ปี 62 "ก้าวไกล" มั่นใจ! ปี 66 ไร้ ส.ส.งูเห่า
“พิธา” มีโอกาส 3 ครั้งเสนอชื่อต่อรัฐสภา ลุ้นโหวตนายกรัฐมนตรี
ซึ่งในวันนั้น นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ จากพรรคพลังประชารัฐ ได้ลุกขึ้นเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี ส่วน นางสาวศรีนวล บุญลือ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคอนาคตใหม่ ลุกขึ้นเสนอชื่อ นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ เป็นนายกรัฐมนตรี
ทั้ง 2 ขั้ว เสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่ 11.00 น. ซึ่งตามกติกาตั้งแต่ต้น สมาชิกรัฐสภา 750 คน เข้าประชุมเสร็จจะต้องเสนอชื่อ นายกรัฐมนตรี โดยพรรคที่เสนอแคนดิเดต จะต้องมีส.ส.อย่างน้อย 25 คนขึ้นไป และต้องมี ส.สคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 1 ใน 10 รับรองการเสนอ จากนั้นจึงเข้าสู่กระบวนการโหวตแบบขานชื่อไล่ที่ละคน เรียงลำดับตาม ก.- ฮ.
แต่ภายหลังเสนอชื่อผู้ชิงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีแล้ว ตลอดทั้งวัน ตั้งแต่ 9 โมงกว่า ทั้ง ส.ส. และ ส.ว. อภิปรายถกเถียง โต้ตอบกันไปมา กว่าจะได้เริ่มโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีจริงๆ ปี 2562 เริ่มโหวตประมาณ 22.00 น. และโหวตเสร็จตอน 23.30 น. ซึ่งกระบวนการโหวตแบบขานชื่อไล่ที่ละคน รวม 750 คน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่ง
ส่วนผลการโหวตในปี 2562 พบว่า จาก 750 คน มีผู้เข้าประชุมรวม 747 คน พล.อ.ประยุทธ์ ชนะโหวต ไป 500 เสียง ส่วนนายธนาธรได้เสียงโหวตไป 244 เสียง งดออกเสียง 3 เสียง
ซึ่ง 3 คน ที่งดออกเสียง คือ นายนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาในขณะนั้น นายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา และ นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ส.ส.ศรีสะเกษ เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และที่น่าสังเกตคือ ในปี 2562 ส.ว.จำนวน 249 คน โหวตเลือก พล.อ.ประยุทธ์ อย่างพร้อมเพียงกันทุกคน
ส่วนการโหวตปี 2566 ที่จะมีขึ้นในอีก 7 วันข้างหน้านี้ คนที่จะได้เป็นนายกรัฐมนตรี ต้องได้เสียง เกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมรัฐสภา คือ 376 เสียงขึ้นไป